การปรับปรุงจุดมุ่งหมายการศึกษาของบลูม
แอนเดอร์สัน และแครทโฮล ( 2001)
ได้ปรับปรุงจุดมุ่งหมายการศึกษาของบลูม
( Bloom’ Taxonomy revise ) ดังตารางที่ 4
( Bloom’ Taxonomy revise ) ดังตารางที่ 4
ตารางที่ 4 การเปรียบเทียบ Bloom’
Taxonomy 1956 และ2001
New Version ( Bloom’s Taxonomy
2001 )
|
Old Version ( Bloom’s Taxonomy
2001 )
|
สร้างสรรค์ -Creating
|
การประเมิน -Evaluation
|
ประเมิน -Evaluation
|
การสังเคราะห์ -Synthesis
|
วิเคราะห์ -Analysing
|
การวิเคราะห์ -Analysis
|
ประยุกต์ -Applying
|
การนำไปใช้ -Application
|
ความเข้าใจ -Understand
|
ความเข้าใจ -Application
|
ความจำ -Remembering
|
ความรู้ -Knowledge
|
Bloom (1956) ใช้คำนามในการอธิบายความรู้
ประเภทต่างๆ ในฉบับปรับปรุงปี 2001 ใช้คำกริยา
และปรับเปลี่ยนคำว่าความรู้ (Knowledge) เป็นความจำ (Remember) เมื่อนำเขียนจุดมุ่งหมายการศึกษา ของหลักสูตรที่อิงมาตรฐาน (standards
– based curriculum) จะเขียนได้ว่า ผู้เรียนควรรู้และทำอะไรได้
(เป็นกิริยา) และได้จัดความรู้เป็น 4 ประเภท
ได้แก่ ข้อเท็จจริง (factual) มโนทัศน์ (concept) กระบวนการ (procedural) และอภิปัญญา (meta-cognition) และมีการเปลี่ยนแปลงขั้นพฤติกรรมหลักในกรอบเดิม 2 ขั้นคือ ขั้นความเข้าใจ (comprehension)
เปลี่ยนเป็นเข้าใจความหมายและขั้นประเมิน (evaluation)
เป็นสร้างสรรค์ (create)
การปรับปรุงอนุกรมวิธานจุดมุ่งหมายทางการศึกษา (Revised’s Bloom Taxonomy)
ที่กล่าวถึงมิติทางการเรียนรู้ ของ Bloomและคณะ 1956 ซึ่งแอนเดอร์สันและแครธโทร (Anderson and Krathwohl,2001) ได้กล่าวถึงรายละเอียดของพฤติกรรมผู้เรียนและผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learning
Outcome) โดยจำแนกเป็น 2กลุ่มคือ 1) มิติด้านกระบวนการทางปัญญา (Cognitive Dimension Process) และ 2) มิติด้านความรู้ (Knowledge
Dimension) มิติด้านกระบวนการทางปัญญาได้แก่ การจำ (remember) เรียกความรู้จากหน่วยความจำระยะยาว ความเข้าใจ (Understanding) ศึกษาความหมายจากข้อมูลที่เรียนรู้ รวมถึงการพูด
การเขียนและการสื่อสารด้วยรูปร่าง ประยุกต์ใช้ (Applying)
ประยุกต์ขั้นตอน/กระบวนการในงานที่คุ้นเคย วิเคราะห์ (Analyzing) จำแนกองค์ประกอบและหาความสัมพันธ์เพื่อกำหนดโครงสร้างหรือเป้าหมายใหม่
ประเมิน (Evaluating) ตัดสินบนพื้นฐานของเกณฑ์และมาตรฐาน
และสร้างสรรค์ (Creating)
จัดองค์ประกอบหรือหน้าที่ให้เชื่อมโยงกันไปสู่รูปแบบหรือโครงสร้างใหม่
มิติด้านความรู้ จำแนกระดับความรู้เป็น 4 ระดับ
ได้แก่ 1) ความรู้ที่เป็นข้อเท็จจริง (Factual
Knowledge) พื้นฐานของผู้เรียนต้องรู้จักหลักการหรือวิธีการแก้ปัญหา 2) ความรู้ที่เป็นมโนทัศน์ (Conceptual Knowledge)
ความสัมพันธ์ขององค์ประกอบพื้นฐานในโครงสร้างทั้งหมดที่จะทำให้สามารถเชื่อมโยงกันได้ 3 )ความรู้ในการดำเนินการ (Procedural Knowledge)
วิธีการสืบค้นและเกณฑ์ในการใช้ทักษะเทคนิควิธีการเพื่อดำเนินการ และ 4) ความรู้อภิปัญญา (Metacognitive Knowledge)
ความรู้จากการรับรู้และเข้าใจในตนเอง การปรับปรุงอนุกรมวิธานจุดมุ่งหมายทางการศึกษามีได้กล่าวถึงอภิปัญญา
(Meta cognitive Knowledge) เป็นมิติหนึ่งของความรู้ คือ
การมีความรู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับความรู้ทางปัญญาโดยทั่วไป รู้ถึงความรู้ในตนเอง
ซึ่งมิติใหม่ทางการศึกษานี้จะมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ระดับอภิปัญญา(Metacognitive Knowledge) ตระหนักในตนเอง (meta awareness) การไตร่ตรอง
ย้อนคิดในตนเอง (Self - reflect) และการกำกับดูแลตนเอง (Self
- reflect)
เขียนตารางแสดงความสัมพันธ์ของมิติด้านกระบวนการทางปัญญา () และ 2) มิติด้านความรู้ () ได้ดังนี้
ตารางที่ 5 ความสัมพันธ์ของมิติด้านกระบวนการทางปัญญา
กับ มิติด้านความรู้
Cognitive Process
|
||||||
The Knowledge
Dimension
|
1
Remember
|
2
Understand
|
3
Apply
|
4
Analyze
|
5
Evaluate
|
6
Create
|
Factual
|
||||||
Conceptual
|
||||||
Procedural
|
||||||
Metacognitive
|
ที่มา : ปรับจาก Anderson, L. W. and Krathwohl, D. R., et al(Eds..) (2001)
Anderson
and Krathwohl (2001)
นำเสนอรูปแบบของอภิปัญญาแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ
ความรู้ทางปัญญา (Knowledge of Cognition)
และกระบวนการในการดูแล ควบคุมกำกับติดตามตนเอง โดยแบ่งเป็นอภิปัญญาในความรู้ (Meta
cognitive knowledge) และอภิปัญญาในการควบคุมตนเอง (Meta
cognitive Control) และความรู้เกี่ยวกับอภิปัญญาแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ 1. ความรู้ในกลยุทธ์วิธีการเรียนรู้
(Strategic knowledge) คือ ความรู้ในกลยุทธ์ยุทธวิถี
การเรียนรู้ การคิดการแก้ปัญหาในกลุ่มทุกวิชา 2. ความรู้ในการเลือกใช้กลยุทธ์และวิธีการเรียนรู้
(Knowledge about Cognitive takse) คือ การเลือกกลยุทธ์
ยุทธวิธี ที่เหมาะสมกับภาระงานชิ้นงาน หรือปัญหาที่เกิดขึ้นในสภาพที่แตกต่างกัน
และ 3. การรู้ในตนเอง (Self - Knowledge) คือ การรู้ถึงความรู้ ความสามารถของตน
การประเมินตนเองทั้งจุดแข็งและจุดที่ควรพัฒนา และ
ควรพัฒนาตนเองอย่างไรเพื่อให้บรรลุภาระชิ้นงานหรือมีความรู้ที่เพียงพอในการแก้ปัญหานั้นๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น